กาวติดตัวอ่อน มันคืออะไร จะเหนียวติดเหมือนกาวตราช้างไหม มันช่วยให้ท้องได้เลยรึเปล่า มาไขข้อสงสัยกันค่ะ
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) และการฉีดอสุจอเข้าไปในเซลล์ไข่ (ICSI) คือการนำไข่และอสุจิจากคู่สมรสออกมาปฏิสนธิภายนอกร่างกาย ความแตกต่างอยู่ที่กระบวนการในการทำให้เกิดการปฏิสนธิ โดยที่การทำ IVF ปล่อยให้อสุจิและไข่ผสมกันเองตาม “ธรรมชาติ” ในขณะที่การทำ ICSI เป็นการคัดเชื้ออสุจิที่แข็งแรงสมบูรณ์เพียงตัวเดียวและใช้เข็มฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง เพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ
การเลือกไข่รอบสดหรือไข่รอบแช่แข็งในการรักษาด้วย IVF หรือ ICSI มีความแตกต่างกันอย่างไร
การย้ายตัวอ่อนรอบสด (Fresh Cycle) คือการย้ายตัวอ่อนในรอบที่ทำการกระตุ้นและเก็บไข่ และนำมาปฎิสนธินอกร่างกาย ถ้าตัวอ่อนเติบโตดี จึงจะทำการย้ายตัวอ่อนที่คัดเลือกเข้าสู่โพรงมดลูกต่อไป
ข้อดีของการย้ายตัวอ่อนรอบสด
1.สามารถย้ายตัวอ่อนเข้าไปในมดลูกได้ทันทีหรือภายใน 6 วันหลังเก็บไข่ จึงไม่เสียเวลาในการเตรียมโพรงมดลูก
2.ตัวอ่อนไม่ต้องผ่านกระบวนการแช่แข็งและละลายตัวอ่อน
ลดค่าใช้จ่ายในการแช่แข็งและเก็บรักษาตัวอ่อน
การย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง (Frozen Cycle)
เป็นการใช้ตัวอ่อนที่แช่แข็งมาละลาย และย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกที่เตรียมพร้อมไว้
การรักษาด้วยวิธีการ IVF หรือ ICSI ใช้เวลานานเท่าไรและต้องอยู่ในประเทศไทยเป็นระยะเวลามากน้อยแค่ไหน
โดยปกติ ขั้นตอนการทำ IVF หรือ ICSI ใช้เวลาประมาณ 3-8 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการนำไข่ออกมา การปฏิสนธิและการย้ายตัวอ่อน) โดยแต่ละกรณีมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆ เช่น อายุ ภาวะเจริญพันธุ์และระดับฮอร์โมน
ระยะเวลาในการทำ IVF หรือ ICSI มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
วงจรของการทำ IVF หรือ ICSI เริ่มขึ้นในวันที่สองของการมีประจำเดือนของคุณในวันที่ใกล้เคียงกับการรักษาด้วยวิธีการ IVF มากที่สุดหลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มกระบวนการกระตุ้นรังไข่ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 8-14 วัน
แพทย์จะฉีดฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นให้ไข่ตก และทำการเก็บไข่แบบ OPD ไม่ต้อง admit
อสุจิของฝ่ายชายจะถูกเก็บวันเดียวกับวันที่เก็บไข่ของฝ่ายหญิง
ถ้าต้องมีการทำ TESE หรือการทำ PESA จะต้องทำก่อนวันที่เก็บไข่หรือในวันที่เก็บไข่
การปฏิสนธิของไข่สดและไข่แช่แข็งใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเก็บไข่ออกมา
หากประสบความสำเร็จในการปฏิสนธิ การย้ายตัวอ่อนจะทำ 3 – 5 วันหลังจากนั้นหากเลือกไข่รอบสด แต่หากเลือกไข่รอบแช่แข็งก็สามารถนัดวันย้ายตัวอ่อนหลังจากนั้นได้
หลังจากย้ายตัวอ่อนได้ 7-14 วัน แพทย์จะทดสอบว่าคุณตั้งครรภ์หรือไม่
การตั้งครรภ์ด้วยวิธี IVF หรือ ICSI จะต้องดูแลครรภ์ด้วยวิธีการที่แตกต่างจากวิธีการตั้งครรภ์ปกติอย่างไร
เมื่อประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ด้วยวิธีการ IVF หรือ ICSI สูติแพทย์จะนัดติดตามผลการตั้งครรภ์ ซึ่งรวมถึงการตรวจฮอร์โมนและการตรวจอัลตร้าซาวด์ ในช่วง 10-12 สัปดาห์อย่างไรก็ตามการตั้งครรภ์แต่ละครั้งมีความแตกต่างกันไม่ว่าจะตั้งครรภ์ด้วยวิธีการปกติหรือโดยการทำ IVF หรือ ICSI นอกจากนี้อาจต้องมาพบแพทย์บ่อยกว่าการตั้งครรภ์ด้วยวิธีการปกติและอาจต้องได้รับยากันแท้ง หรือฮอร์โมนเพิ่มเติมโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับผู้ใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท ไอสยาม โฮลดิ้ง จำกัด จำกัด
บริษัท ไอสยาม โฮลดิ้ง จำกัด จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “สไมล์ไอวีเอฟ” หรือ “เรา”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราจึงได้กำหนดแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งอาจเกิดขึ้นในระหว่างที่ท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อเรา
1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
เมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ของ สไมล์ไอวีเอฟ เราอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ข้อ | วัตถุประสงค์ | ฐานทางกฎหมาย |
---|---|---|
1.1 | เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ หรือเข้าใช้งานระบบต่าง ๆ ของ สไมล์ไอวีเอฟ หรือเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ ทั้งของสไมล์ไอวีเอฟ หรือหน่วยงานภายนอก | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
1.2 | เพื่อวัดผลการปฏิบัติงาน และการวิเคราะห์การสำรวจตลาดและกลยุทธ์ทางการตลาด รวมทั้งเพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
1.3 | เพื่อวิเคราะห์ วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมต่าง ๆ ของสไมล์ไอวีเอฟ ให้ดียิ่งขึ้นหรือเหมาะสมกับความต้องการของท่าน รวมถึงการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของ สไมล์ไอวีเอฟ เพื่อวิเคราะห์การใช้งานของผู้ใช้เว็บไซต์สำหรับการพัฒนาเว็บไซต์และกลยุทธ์การสื่อสารของ สไมล์ไอวีเอฟ | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
1.4 | เพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงเพื่อการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการบริหารจัดการภายในองค์กร | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
1.5 | ในกรณีที่ท่านประสงค์ขอเข้าเยี่ยมชมกิจการของ สไมล์ไอวีเอฟ เราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการติดต่อประสานงานต่าง ๆ การพิจารณาคัดเลือกและยืนยันการเยี่ยมชม รวมทั้งเตรียมการอำนวยความสะดวกให้เหมาะสมกับกลุ่มบุคคลที่จะมาเข้ามาเยี่ยมชมกิจการของเรา | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
1.6 | ในกรณีที่ท่านแจ้งข้อมูลผ่านช่องทางการติดต่อเรา หรือแจ้งคำขอต่าง ๆ เช่น ขอรับข้อมูลข่าวสารจากศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น เราอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการติดต่อสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำขอ หรือข้อร้องเรียน หรือข้อมูลที่ท่านได้แจ้งไว้กับเรา รวมถึงการพิจารณาดำเนินการตามคำขอ การติดต่อส่งข้อมูล การออกใบเสร็จ (กรณีมีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการสำเนาข้อมูลหรือส่งเอกสาร) การตรวจสอบข้อเท็จจริง การจัดเก็บเป็นบันทึกเพื่อติดตามผลการดำเนินการ และเป็นข้อมูลเพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับการตรวจสอบ รวมถึงเพื่อการตรวจสอบภายในของสำนักตรวจสอบภายใน และการบริหารจัดการภายในองค์กร | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
1.7 | เพื่อการติดต่อและส่งแบบสำรวจ เพื่อสอบถามความคิดเห็น และนำมาวิเคราะห์เพื่อการพัฒนาเว็บไซต์ ของ สไมล์ไอวีเอฟ ให้ตอบสนองความสนใจของกลุ่มผู้อ่าน | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) |
1.8 | เมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเรา เราจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลบางประการของผู้ใช้งานเว็บไซต์เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวน สอบสวน ตามกระบวนการทางกฎหมายและกฎระเบียบอื่นใด และเพื่อการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นใดซึ่งอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล รวมทั้งเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย | ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สไมล์ไอวีเอฟ เก็บรวบรวมอันเนื่องมาจากความจำเป็นในการปฏิบัติสัญญา หรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ นั้น หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว สไมล์ไอวีเอฟ อาจไม่สามารถให้บริการหรืออำนวยความสะดวกให้กับท่านได้
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจมีการเก็บรวบรวม
ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ของ สไมล์ไอวีเอฟ อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบางส่วนอาจเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยอัตโนมัติจากการใช้งานเว็บไซต์ เช่น การจัดเก็บ IP Address ประเภทของเบราว์เซอร์ เป็นต้น และบางส่วนอาจเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้มาจากการขอให้ท่านกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่เรากำหนด หรือเป็นข้อมูลที่ท่านให้กับเราเพื่อประกอบการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องแต่ละประเภท เช่น การติดต่อสอบถาม การติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม การติดต่อขอเข้าเยี่ยมชมกิจการ เป็นต้น นอกจากนี้ สไมล์ไอวีเอฟ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านผ่านผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเรา หรืออาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น แหล่งข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ ข้อมูลที่สามารถขอคัดถ่ายสำเนาได้จากหน่วยงานราชการ เป็นต้น
ทั้งนี้ สไมล์ไอวีเอฟ อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน
ในการใช้งานเว็บไซต์ของสไมล์ไอวีเอฟ โดยทั่วไปนั้น สไมล์ไอวีเอฟ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ศาสนา เชื้อชาติ เป็นต้น ของท่าน หรือบุคคลอื่น เพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ ท่านไม่จำเป็นต้องระบุ หรือกล่าวถึงข้อมูลดังกล่าว อย่างไรก็ตามหากมีกรณีที่ สไมล์ไอวีเอฟ จำเป็นจะต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อวัตถุประสงค์ใด สไมล์ไอวีเอฟ จะแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่านเป็นกรณีไป
กรณีที่ท่านได้ให้สำเนาบัตรประชาชนซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ศาสนา และหมู่โลหิต รวมอยู่ด้วยนั้น โดยทั่วไปแล้ว สไมล์ไอวีเอฟ ไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ สไมล์ไอวีเอฟ ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้ สไมล์ไอวีเอฟดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้น และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าว มีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หาก สไมล์ไอวีเอฟ ไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ สไมล์ไอวีเอฟ จะเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลดังกล่าว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
3. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
สไมล์ไอวีเอฟ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในแบบแจ้งฉบับนี้ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของสไมล์ไอวีเอฟ
4. การเปิดเผยข้อมูล
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งฉบับนี้สไมล์ไอวีเอฟ อาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้
5. การส่งหรือเปิดเผยข้อมูลไปต่างประเทศ
สไมล์ไอวีเอฟ อาจมีการเก็บข้อมูลบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ของผู้ให้บริการที่อยู่ต่างประเทศ และอาจมีการประมวลผลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันสำเร็จรูปของผู้ให้บริการในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไม่ว่ากรณีใด ๆ สไมล์ไอวีเอฟจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
6. การเข้าใช้งานเว็บไซต์อื่นผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท
เนื่องจากแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้สำหรับการให้บริการและการใช้งานเว็บไซต์ของสไมล์ไอวีเอฟ เท่านั้น หากท่านเข้าชมเว็บไซต์อื่นแม้จะผ่านช่องทางทางเว็บไซต์ของ สไมล์ไอวีเอฟ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ จะเป็นไปตามแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้นซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ สไมล์ไอวีเอฟ
7. คุกกี้และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน
สไมล์ไอวีเอฟ ใช้คุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการทำงานของเว็บไซต์ของสไมล์ไอวีเอฟ เพื่อเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลเมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ และสไมล์ไอวีเอฟ มีความประสงค์จะใช้คุกกี้ทางเลือกเพื่อช่วยให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของ สไมล์ไอวีเอฟ โดย สไมล์ไอวีเอฟ จะไม่ใช้คุกกี้ทางเลือกจนกว่าท่านจะอนุญาตให้เราเปิดใช้งานคุกกี้ดังกล่าว นอกจากนี้ เว็บไซต์ของเราอาจมีการใช้งาน Google Analytics เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์และนำข้อมูลมาพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์ของเรา ท่านสามารถศึกษารายละเอียดของการใช้คุกกี้ได้จากนโยบายการใช้คุกกี้ ของสไมล์ไอวีเอฟ
8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่ สไมล์ไอวีเอฟ กำหนดในข้อ 10. หรือผ่านเว็บไซต์ของ สไมล์ไอวีเอฟ โดยจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับสไมล์ไอวีเอฟ ซึ่งสิทธิต่าง ๆ ของท่านมีรายละเอียด ดังนี้
8.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่สไมล์ไอวีเอฟ ขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับสไมล์ไอวีเอฟ ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
8.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสไมล์ไอวีเอฟ รวมถึงขอให้สไมล์ไอวีเอฟ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อสไมล์ไอวีเอฟ ได้
8.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านมีสิทธิขอให้สไมล์ไอวีเอฟ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับสไมล์ไอวีเอฟ ได้ตามที่กฎหมายกำหนด
8.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
8.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอให้ สไมล์ไอวีเอฟ ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม สไมล์ไอวีเอฟ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้นสไมล์ไอวีเอฟ จะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
8.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้ สไมล์ไอวีเอฟ ระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด
8.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Rectification Right)
กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่ สไมล์ไอวีเอฟ มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้ สไมล์ไอวีเอฟ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
8.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หาก สไมล์ไอวีเอฟฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
9. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งฉบับนี้
เราอาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น เราจะประกาศให้ท่านทราบในเว็บไซต์ของ สไมล์ไอวีเอฟ ทั้งนี้ หากมีกรณีที่จำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านเราจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
10. วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อสไมล์ไอวีเอฟได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท ไอสยาม โฮลดิ้ง จำกัด
สถานที่ติดต่อ: | 428 อาคารอารีย์ ฮิลล์ ชั้น 21 ซอยพหลโยธิน 10 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 |
เบอร์โทรศัพท์: | 02-097-1977 |
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ: | 428 อาคารอารีย์ ฮิลล์ ชั้น 21 ซอยพหลโยธิน 10 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 |
เบอร์โทรศัพท์: | 02-097-1977 |
อีเมล์: | info@smileivf.com |
ประกาศ ณ วันที่ 31 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2567
กาวติดตัวอ่อน มันคืออะไร จะเหนียวติดเหมือนกาวตราช้างไหม มันช่วยให้ท้องได้เลยรึเปล่า มาไขข้อสงสัยกันค่ะ
มาทำความรู้จักตัวช่วยดีดีชื่อว่า “Embryo Glue“ ในการช่วยการฝังตัวอ่อน และเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้มากขึ้นอีกด้วย
Embryo glue คือ น้ำยาชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของ โปรตีนที่ชื่อว่า Hyaluronan ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกาย และจะพบเป็นจำนวนมากในเยื่อบุโพรงมดลูกในช่วงเวลาที่มีการฝังตัวของตัวอ่อน โดยสารชนิดนี้จะทำหน้าที่จับกับตัวรับ (Receptor) ที่ชื่อ CD44 ที่อยู่ที่ผิวของเยื่อบุโพรงมดลูก ในช่วงเวลาที่จะมีการฝังตัวของตัวอ่อนตามธรรมชาติ เมื่อเรานำ Hyaluronan มาผสมกับตัวอ่อน Hyaluronan จะซึมเข้าไปในเปลือกของตัวอ่อนและยึดติดกับเซลล์ของตัวอ่อนไว้ มันก็เลยเกิดแรงยึดเหนี่ยวขึ้นระหว่างตัวอ่อนกับเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้ตัวอ่อนวางอยู่บนเยื่อบุโพรงมดลูกไม่เคลื่อนที่ไหลไปไหน อีกทั้ง Hyaluronan นั้นเป็นอาหารสำหรับตัวอ่อนด้วย ตัวอ่อนจึงสามารถเจริญเติบโตได้ดีและฝังตัวลงไปบนเยื่อบุโพรงมดลูก เกิดเป็นการตั้งครรภ์ได้
โดยการทำงานของน้ำยา Embryo glue คือจะทำการเคลือบตัวอ่อนเพื่อง่ายต่อการผ่านชั้นสารน้ำที่อยู่บริเวรพื้นผิวเยื่อบุผิว และเมื่อตัวอ่อนเข้าใกล้เยื่อบุผิวโพรงมดลูกสาร Hyaluronan จะทำการยึดติดกับตัวรับระหว่างเซลล์ตัวอ่อนและเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูก ( Receptor CD44 ) หลังจากนั้นตัวอ่อนจะทำการยึดเกาะเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกนั้นเอง
เมื่อใช้กาวติดตัวอ่อนร่วมกับการย้ายตัวอ่อน
ในผู้หญิงที่ทำเด็กหลอดแก้ว ที่อายุ 30 ปีหรือน้อยกว่า อัตราการตั้งครรภ์อยู่ที่ 70-85%
ถ้าอายุ 31-34 ปี ก็ประมาณ 50%
แต่ถ้าอายุ 35 ปีหรือมากกว่า ก็เหลือแค่ประมาณ 30% เท่านั้น
จะเห็นได้ว่าอายุฝ่ายหญิงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดว่าจะท้องหรือไม่ ปัจจุบันมีรายงานการศึกษาหลายๆฉบับที่แสดงให้เห็นผลในทางบวกของ Embryo Glue ที่ช่วยให้อัตราการตั้งครรภ์สูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แต่ก็ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายๆอย่างช่วยด้วยนะคะ
Smile IVF Clinic เราพร้อมให้คำปรึกษาเรื่อง “การมีบุตรยาก” โดยทีมแพทย์ ทีมพยาบาล ทีมนักวิทย์ฯ และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์โดยตรง รวมไปถึงเครื่องมือและห้องปฏิบัติการทางแล็บที่ทันสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ที่ผลสำเร็จสูงสุด
ERA test (Endometrial Receptivity Analysis Test) ตัวช่วยเพิ่มโอกาสฝังตัวให้สูงขึ้นจากการย้ายตัวอ่อนวิธีปกติทั่วไป เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์โดยไม่สูญเสียตัวอ่อนที่ดี แม้แต่ตัวอ่อนที่ดีที่สุดก็ยังไม่สามารถปลูกถ่ายได้หากสภาวะผนังมดลูกไม่เหมาะสมต่อการฝังตัว โดยรายงานผลจะเป็นการให้คำแนะนำช่วงเวลาการย้ายตัวอ่อนเฉพาะบุคคล และแพทย์จะใช้ผลการวิเคราะห์เพื่อคำนวณเวลาการย้ายตัวอ่อน (โดยปรับตามการเริ่มใช้กลุ่มยา Progesterone ) ในรอบจริง.
เยื่อบุโพรงมดลูกคืออะไร?
การเปิดกว้างของเยื่อบุโพรงมดลูกคืออะไร?
คำถามที่พบบ่อย ไม่จดทะเบียนสมรส ทำเด็กหลอดแก้วได้หรือเปล่าคะ
คู่รักเพศเดียวกันแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายในต่างประเทศ ฉันสามารถใช้วิธีการ IUI และ IVF ในประเทศไทยได้หรือไม่
ข้อบังคับทางกฎหมายเกี่ยวกับการแช่แข็งตัวอ่อนมีอย่างไรบ้าง
ในประเทศไทย สามารถตรวจคัดกรองความผิดปกติทางกันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนการฝังตัวได้หรือไม่
ภาวะรังไข่หยุดทำงานก่อนวัย (วัยทองก่อนวัยอันควร) คือภาวะที่รังไข่ทำงานผิดปกติไป ในขณะที่อายุยังน้อย (น้อยกว่า 40ปี)
โดยธรรมชาติแล้ว รังไข่จะค่อยๆ ทำงานด้อยประสิทธิภาพลงตามอายุเพิ่มขึ้น และหยุดทำงานเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน เมื่อรังไข่หยุดทำงาน ก็คือไม่มีการตกไข่ด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอาการภาวะรังไข่หยุดทำงานก่อนวัย ไม่ได้ไม่มีการตกไข่เลย เพียงแต่ว่ารังไข่มีการทำงานผิดปกติไปจากเดิม โดยอาจจะการตกไข่เกิดขึ้นเพียงครั้งคราวเท่านั้น
โดยภาวะนี้มีสาเหตุมาจาก
1.ประจำเดือนขาด พบได้ประมาณร้อยละ 2-10
2.เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ก่อนประจำเดือนจะขาด เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด โดยมักจะขาดไปหลังการ
3.ตั้งครรภ์ หรือหลังจากหยุดยาคุมกำเนิด
4.โครโมโซมผิดปกติ พบได้ประมาณร้อยละ 10
5.ภาวะมีบุตรยาก พบน้อย
6.อื่นๆ เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง การทำเคมีบำบัด
การฉีด PRP จะช่วยรักษาอาการ และฟื้นฟูเนื้อเยื่อได้หลายชนิด เพราะในเกล็ดเลือดมี Growth Factor และ Cytokines อันเป็นสารประกอบที่ช่วยกระตุ้นเซลล์รอบๆ เนื้อเยื่อให้เกิดกระบวนการฟื้นฟูและแบ่งตัวตามกลไกธรรมชาติได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
1.ผู้ที่มีปัญหารังไข่เสื่อมก่อนวัย การทำ PRP จะช่วยกระตุ้นระดับฮอร์โมนให้การทำงานของรังไข่ให้ดีขึ้น หลังฉีดแล้วพบว่า คนไข้ส่วนใหญ่มีระดับ AMH (ฮอร์โมนที่บอกถึงจำนวนไข่) เพิ่มขึ้น
2.ผู้ที่มีภาวะรังไข่ตอบสนองต่อการกระตุ้นต่ำ
ผู้ที่มีปัญหาเยื่อบุโพรงมดลูกบางจนไม่สามารถย้ายตัวอ่อนได้ เมื่อได้รับการฉีด PRP ก่อนการสอดยาโปรเจสเตอโรน พบว่าช่วยให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้น และมีเลือดมาหล่อเลี้ยงเยื่อบุโพรงมดลูกเพิ่มขึ้น
3.ผู้ที่ทำการกระตุ้นไข่ แต่ได้ตัวอ่อนไม่แข็งแรง ไม่ถึงระยะ blastocyst หรือตรวจโครโมโซมไม่ผ่าน
ใช้ระยะเวลาประมาณ 20 นาที เมื่อนำเลือดไปปั่นแยกแล้ว สามารถนำฉีดเข้าโพรงมดลูกหรือฉีดบริเวณเนื้อรังไข่ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น มีการวางยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์ จึงไม่ควรขับรถกลับบ้านเองตามลำพัง เพื่อความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผลการวิจัยรองรับในเรื่องการเพิ่มจำนวนไข่ รวมถึงอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ หรือโอกาสในการเกิดมะเร็งที่รังไข่จากการฉีด PRP ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง